[sc/7.5] [stt/พ.ไทย] [hd/จบ] [nd] กำกับ: ลี จองฮยอ, จาง ยองอู
เขียนบท: จอง ฮยอนจอง
แนวละคร: โรแมนติก คอมเมดี้
จำนวนตอน: 16
ออกอากาศ: เกาหลี - 20 มิถุนายน 2555 -9 สิงหาคม 2555 ทางช่องเคเบิ้ลทีวีเอ็น
ไทย - 30 พฤศจิกายน 2556 - 19 มกราคม 2557 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.05-21.00 น. ทางเวิร์คพอยท์ทีวี

เรื่องย่อ รักนี้ต้องโรมานซ์ (2012) I Need Romance

เรื่องราวของ "จู ยอลแม" ซึ่งรักๆ เลิกๆ กับ "ยูน ซอกฮยอน" เพื่อนชายของเธอมาตลอด 12 ปี เธอเลิกกับซอกฮยอนเป็นครั้งที่ 5 เมื่อ 3 ปีก่อน เพราะซอกฮยอนต้องการอยู่กับเธอโดยไม่แต่งงาน แม้จะเลิกกันแล้วแต่ทั้งคู่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง "ชิน จีฮุน" ได้เข้ามาในชีวิตของยอลแมและทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว จึงกลายเป็นรักสามเส้าที่คนดูต้องลุ้นว่าสุดท้ายแล้วยอลแมจะหารักแท้เจอหรือไม่ หรือว่าเธอจะสูญเสียชายหนุ่มทั้งสองคนไป

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในคลับแจ๊สท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก หนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังนั่งคุยกันอย่างสวีทหวานโดยไม่อาจละสายตาจากกันและกัน หญิงสาวเล่าว่าตอนเด็กๆ เธอมีกระต่ายตัวหนึ่ง แต่มันไม่เหมือนกระต่ายตัวอื่นๆ เพราะเคลื่อนไหวได้ช้ามาก เธอใช้นิ้วเดินเป็นตัวอย่างให้ชายหนุ่มดู โดยค่อยๆ ขยับนิ้วเข้าไปหามือชายหนุ่มช้าๆ ก่อนใช้นิ้วเขี่ยมือชายหนุ่มแล้วส่งสายตาเชิญชวน ชายหนุ่มตอบรับด้วยการใช้นิ้วลูบไล้มือหญิงสาว ครั้นพอเพลงจบหญิงสาวก็ชักมือกลับ ปรากฎว่าได้เวลาคลับปิดพอดี ชายหนุ่มยังไม่อยากกลับบ้านจึงชวนหญิงสาวไปดื่มกาแฟต่อ หญิงสาวเองก็อยากไปกับชายหนุ่มเช่นกัน แต่ไม่ใช่ที่ร้านกาแฟ

ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้องพักโรงแรม ทั้งคู่ก็โผเข้าจูบกันอย่างเร่าร้อน หญิงสาวพยายามบอกชายหนุ่มว่าทั้งคู่ยังไม่รู้จักกันดีพอ ชายหนุ่มจึงบอกว่า งั้นเรามาเริ่มทำความรู้จักกันตอนนี้เลย พูดจบทั้งคู่ก็จูบกันอย่างดูดดื่มอีกครั้ง หลังจากนั้นหญิงสาวก็บอกชายหนุ่ม (ขณะปลดกระดุมเสื้อให้ฝ่ายชาย) ว่า เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอชอบหรือเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องอะไร ชายหนุ่มจึงถามว่าเธอชอบอะไร หญิงสาวตอบว่า "จูบ" ชายหนุ่มจึงจัดให้อีกชุดพลางถอดชุดเดรสให้เธอ

จากนั้นชายหนุ่มก็ถามหญิงสาวว่าเธอกังวลเรื่องอะไร หญิงสาวตอบเป็นชุดว่า 'สิ่งแวดล้อม มลพิษ การแคลนน้ำดื่มในแอฟริกา เด็กๆ ที่เสียชีวิตเพราะขาดแคลนอาหาร...' ชายหนุ่มยิ้มอย่างเอ็นดูแล้วระดมจูบอีกครั้ง พอชายหนุ่มหยุดมองหน้าหญิงสาว เธอก็พูดต่อว่า 'สันติสุขของชาวโลก' ทำให้โดนจูบอีก ครั้นพอชายหนุ่มหยุดมองหน้าหญิงสาวอีกครั้ง เธอก็ตอบว่า 'การล่วงละเมิดเด็ก' ชายหนุ่มยิ้มแล้วบอกว่าโอเค จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นมาจูบ หลังล้มตัวลงบนเตียงนอน หญิงสาวเห็นฝ่ายชายกำลังจะถอดกางเกง จึงขอปลดเข็มขัดและถอดกางเกงให้ชายหนุ่มด้วยตนเอง โดยบอกว่าทำอย่างนี้แล้วได้อารมณ์และรู้สึกตื่นเต้นดี

หลังปลดกระดุมและรูดซิปกางเกงให้ชายหนุ่มแล้ว หญิงสาวก็ร้องว่า "เหลือเชื่อจริงๆ".... ปรากฏว่าเหตุการณ์ที่เล่ามาทั้งหมดนี้เป็นเพียงเนื้อหาส่วนหนึ่งในบทละคร!!!

ยอลแมอ่านบทละครที่ซอกฮยอนเขียนแล้วโวยวายเสียงดังลั่น เพราะซอกฮยอนดันเอาความสัมพันธ์ในอดีตของเธอกับเขามาเขียนเป็นบทละคร ซอกฮยอนถามหน้าตาเฉยว่ารู้ได้ยังไง ยอลแมกล่าวว่า โลเกชั่นที่เขาระบุไว้ในบท คือ คลับที่เธอกับเขามักไปสวีทด้วยกันเป็นประจำสมัยที่ยังเป็นแฟนกัน แถมสิ่งที่ตัวละครทั้งสองคนทำ (จูบกันอย่างเร่าร้อน ราวกับอดอยากปากแห้งมานาน) ก็เหมือนตอนที่เธอกับเขาทำกันตอนเมาอีกด้วย และสิ่งที่ทำให้เธอโกรธมากที่สุดก็คือ ตอนที่ตัวละครหญิงขอปลดเข็มขัดและถอดกางเกงให้ผู้ชาย เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เธอเคยพูดและทำกับซอกฮยอน

ยอลแมต่อว่าซอกฮยอนที่ไม่ยอมเก็บความทรงจำดีๆ ระหว่างเธอกับเขาไว้เป็นความลับ มิหนำซ้ำยังเอารสนิยมทางเพศของเธอมาแฉให้โลกรู้ ซอกฮยอนแย้งว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวในเกาหลีที่ชอบถอดเข็มขัดและกางเกงให้ผู้ชายเวลามีเซ็กส์ ยอลแมเถียงไม่ออกแต่ก็ยังไม่วายบ่นว่า ทำไมต้องเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาหากินด้วย ซอกฮยอนถามว่า "แล้วมันเจ๋งไหมล่ะ" ยอลแมตอบเสียงอ่อยๆ ว่า "ก็ไม่เลว" แต่ยังไม่วายติว่าเขาเลือกเพลงประกอบได้ห่วยแตกมากๆ (ยอลแมก็ติในฐานะที่เธอเป็น 'มิวสิค ไดเร็คเตอร์')

ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ซอกฮยอนหยิบมือถือยอลแมขึ้นมาดูแล้วบอกว่ายายของเธอโทรฯ มา ยอลแมรีบลุกขึ้นแล้วบอกซอกฮยอนว่าอย่ารับสาย แต่ถ้าจะรับก็ให้โกหกว่าเธอออกไปแล้ว พูดจบยอลแมก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านแล้วควานหาเสื้อผ้าอย่างเร่งรีบ (ทั้งคู่อยู่บ้านเดียวกันแต่แบ่งโซน) ซอกฮยอนตามเข้าไปในห้องของยอลแมแล้วถามว่าวันนี้เธอมีนัดดูตัวหรือ (เป็นการนัดบอดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแต่งงาน) ยอลแมตอบพลางหยิบเสื้อผ้าและเครื่องสำอางอย่างเร่งรีบว่า ยายเธอสมัครสมาชิกบริษัทหาคู่ให้เป็นของขวัญวันเกิด เธอเลยคิดว่าจะลองไปเล่นขำๆ ยอลแมส่งเสื้อผ้าให้ซอกฮยอนถือและบอกให้เขาช่วยรวบรวมข้าวของที่เธอจำเป็นต้องใช้ ซอกฮยอนรีบขนของ (เสื้อผ้า รองเท้าส้นสูง กระเป๋า มือถือ กุญแจรถ) แล้ววิ่งตามยอลแมไปที่รถ ไม่ว่ายอลแมร้องหาอะไรซอกฮยอนก็จัดให้ทันควัน

ซอกฮยอนนำเสื้อผ้าและรองเท้าส้นสูงของยอลแมมาวางไว้บนรถให้อย่างเป็นระเบียบ เขาเห็นว่าผมของยอลแมยังคงยุ่งเหยิงและมีโรลม้วนผมติดอยู่จึงเตือนว่าผมของเธอยังไม่เรียบร้อย แต่ยอลแมห่วงเรื่องความสะอาดมากกว่าเลยเตือนซอกฮยอนว่าอาทิตย์นี้เป็นเวรของเขา ก่อนไปเธอยังบอกด้วยว่าชอบฉากที่เพิ่งอ่านก่อนหน้านี้ เธออยากดูแลเพลงประกอบละครให้ซอกฮยอน จึงขอให้เขาช่วยแนะนำเธอกับผู้กำกับ ซอกฮยอนแกล้งทำเป็นเล่นตัวเล็กน้อย จากนั้นก็ไล่ให้ยอลแมรีบไปตามนัดก่อนจะสายไปมากกว่านี้

หลังขับรถออกจากบ้านแล้ว ยอลแมก็เล่าให้คนดูฟังว่า เธอกับซอกฮยอนเพื่อนกันตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ด้วยความที่ใกล้ชิดสนิทสนมและเติบโตมาด้วยกัน ทั้งคู่จึงเป็นเหมือนพี่น้อง เธอจำไม่ได้ว่าตนเองและซอกฮยอนเริ่มชอบพอกันตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าพออายุ 18 ก็ตกหลุมรักกันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่นั่นก็กลายเป็นอดีตไปแล้ว

ระหว่างที่จอดรถติดไฟแดง ยอลแมก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าพลางบ่นซอกฮยอนด้วยความหงุดหงิดว่า "ผู้หญิงที่เคยคบกันมานาน 12 ปีบอกว่ามีนัดกับผู้ชายคนอื่น แต่เขากลับทำนิ่งเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อนเนี่ยนะ" (ในเวลาเดียวกันนั้น ซอกฮยอนก็กำลังทำความสะอาดบ้านของตัวเองซึ่งสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบสุดๆ)

ยอลแมบอกคนดูอีกว่า เธอและซอกฮยอนรักๆ เลิกๆ กันมาทั้งหมด 5 ครั้ง แต่เพิ่งเลิกกันแบบจริงๆ จังๆ เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนี้เธอกับซอกฮยอนเปรียบเสมือนคนแปลกหน้า และอยู่ในฐานะ 'เพื่อนบ้าน' กันเท่านั้น

หลังทำความสะอาดบ้านตัวเองเสร็จแล้ว ซอกฮยอนก็เข้ามาทำความสะอาดบ้านของยอลแม เมื่อเห็นสภาพห้องนอนของยอลแมแล้ว ซอกฮยอนก็บ่นว่าทำห้องเละเทะแล้วยังมีหน้าไปออกเดทอีก ยอลแมซึ่งยังคงเปลี่ยนเสื้อผ้าในรถอย่างทุลักทุเล (กลางสี่แยกไฟแดงและจอดคันหน้าสุดติดทางม้าลาย) โทษซอกฮยอนว่า เพราะเขานั่นแหล่ะเธอถึงถูกบังคับให้ไปดูตัว และต้องขึ้นคานจนอายุปูนนี้ (33 ปี) ที่เธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้ก็เพราะซอกฮยอนนั่นแหล่ะที่ไม่ยอมรับผิดชอบในตัวเธอ

ซอกฮยอนหยิบกางเกงใน (ใส่แล้ว) ของยอลแมขึ้นมาดูแล้วบ่นว่า เธอควรซักชุดชั้นในด้วยมือแทนที่จะนำมาใส่ตระกร้ารอซักรวมกับเสื้อผ้าตัวอื่นๆ เขาซักกางเกงในให้ยอลแมด้วยมือพลางบ่นว่าผู้ชายที่มีนัดกับเธอในวันนี้ช่างเป็นคนโชคร้ายสุดๆ ครั้นพอเห็นฟองน้ำหลุดออกมาจากเสื้อในของยอลแม เขาก็บ่นว่าผู้หญิงอะไรช่างไม่มีความจริงใจเอาเสียเลย ในเวลาเดียวกันนั้น ยอลแมซึ่งยังคงติดไฟแดงอยู่กลางสี่แยกเกิดนึกสงสัยขึ้นมาว่าหากเธอกับซอกฮยอนแต่งงานกันก่อนหน้านี้ชีวิตของทั้งคู่จะเป็นอย่างไง

ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อนตอนที่ยังเป็นแฟนกัน ยอลแมบอกซอกฮยอนว่าเธออยากแต่งงาน ซอกฮยอนปฏิเสธโดยบอกว่าตนไม่อยากแต่งและไม่เคยรับปากว่าจะแต่งงาน เขาให้เหตุผลว่าที่ผ่านมาตนเห็นหลายคู่รักกันหวานชื่นแต่พอแต่งงานกันแล้วกลับไปไม่รอด จึงคิดว่าอยู่ด้วยกันและรักกันไปเรื่อยๆ อย่างทุกวันนี้ยังดีเสียกว่า ยอลแมยืนยันว่าเธออยากแต่งงาน ซอกฮยอนยืนกรานว่าเขาไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานเลยด้วยซ้ำและนึกว่าเธอเองก็คิดเหมือนเขาด้วยเช่นกัน ในตอนนั้นยอลแมอายุ 30 ปีแล้ว เธอจึงพยายามอ้อนวอนให้ซอกฮยอนยอมแต่งงานกับเธอ โดยสัญญาว่าจะเป็นภรรยาที่ดี

ตัดกลับมาที่ช่วงเวลาปัจจุบัน... ซอกฮยอนสะบัดผ้าตากให้ยอลแมพลางบอกตัวเองว่า หากตนเชื่อคำพูดของยอลแมในวันนั้น ป่านนี้ชีวิตตนคงจบเห่ ด้านยอลแมซึ่งกำลังขับรถก็บอกตัวเองเช่นกันว่า นับเป็นโชคดีของเธอที่ถูกซอกฮยอนปฏิเสธการแต่งงาน เพราะเขาทั้งเห็นแก่ตัว และจู้จี้ขี่บ่น ขณะเดียวกันซอกฮยอนก็บ่นลับหลังยอลแมว่า "มีนัดกับชายหนุ่มแท้ๆ แต่ดันไม่ยอมล้างหน้า ผู้หญิงอะไรซกมกเป็นบ้า" ยอลแมนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้ล้างหน้าจึงควานหาทิชชูแบบเปียกภายในรถ ครั้นพอถึงที่หมายเธอก็จอดรถแต่งหน้าทำผมเสียจนสวยเช้ง

ยอลแมสำรวจความงามของตัวเองในกระจกรถ พลางให้กำลังใจตัวเองว่า แม้จะอายุ 33 และไม่มีเวลาออกเดทกับผู้ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ยังมีหนุ่มโสดหลงเหลืออีกมากในโลกใบนี้ และเธอก็เชื่อว่าตัวเองมีเสน่ห์เหลือล้น ถึงแม้ว่าการนัดบอดกับชายหนุ่มจะไม่น่าภูมิใจนักก็ตาม หลังใส่รองเท้าส้นสูง (ที่ซอกฮยอนเตรียมไว้ให้) แล้ว ยอลแมก็เดินตรงเข้าไปในอาคารอย่างมั่นใจ เธอเห็นลิฟต์ตัวหนึ่งกำลังจะปิดเลยรีบวิ่งเข้าไป ทำให้ชายเสื้อด้านหลังถูกประตูลิฟต์หนีบจนไม่สามารถขยับหรือหันหลังกลับได้ เธอจึงได้แต่ยืนเผชิญหน้าผู้ชายกลุ่มใหญ่ที่อยู่ในลิฟต์ด้วยความอับอาย

ระหว่างเดินไปที่ห้องอาหาร ยอลแมเล่าให้คนดูฟังว่าเพื่อนของเธอที่ชื่อ "ซอน แจยอง" พบสามีตอนไปห้องสมุดเป็นครั้งแรก ส่วนเพื่อนอีกคนที่ชื่อ "วู จีฮี" ก็เจอแฟนหนุ่มที่เป็นหมอในงานปาร์ตี้ เธอจึงเชื่อว่าความรักเกิดขึ้นได้ทุกหนทุกแห่งและพยายามปลอบตัวเองว่าอย่าเพิ่งหมดหวัง พอไปถึงห้องอาหารยอลแมก็กวาดตามองหาเจ้าหน้าที่บริษัทจัดหาคู่ แต่สิ่งที่เธอพบก็คือ ภาพอันไม่น่าประทับใจของบรรดาผู้ชายที่มานั่งรอคู่นัดบอด ชายคนหนึ่งกำลังเช็คกลิ่นเต่าตนเอง (รักแร้เปียก) ก่อนเอาผ้ามาซับเหงื่อที่ไหลเยิ้มอยู่บนใบหน้า บางคนแอบยัดของกินใส่ปากอย่างมูมมาม ขณะที่อีกคนเกาหัวแล้วเป่าเศษรังแคออกจากเล็บ จากนั้นก็ใช้มือปัดรังแคที่ติดอยู่ตามเสื้อ ยอลแมเห็นแล้วรับไม่ได้เลยหันหลังกลับทันที

ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่บริษัทจัดหาคู่ก็ตามมาเรียกเธอแล้วพาไปที่โต๊ะ โชคดีที่คู่เดทของเธอไม่ใช่ชายหนุ่มทั้งสามคนที่ว่า แต่เป็น "คิม ฮันซบ" ซึ่งมีบุคลิกและรูปร่างหน้าตาดี ยอลแมแนะนำตัวด้วยความภาคภูมิใจว่าเธอเป็นมิวสิค ไดเร็คเตอร์ ฮันซบได้แต่ฟังและนั่งยิ้ม หลังปล่อยให้ยอลแมจ้อเรื่องงานของตัวเองได้พักใหญ่ ฮันซบก็เริ่มหมดความอดทน เขาถามยอลแมด้วยความโกรธว่าจำตนไม่ได้เลยหรือ ยอลแมได้แต่จ้องหน้าฮันซบตาปริบๆ เพราะเธอจำไม่ได้สักนิดว่าเขาเป็นใคร ฮันซบจึงเฉลยอย่างอ่อนใจว่าเขาเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเธอ

ยอลแมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แจยองและจีฮีฟัง พลางนึกสงสัยว่าทำไมถึงจำฮันซบไม่ได้ ทั้งๆ เธอเคยจูบกับเขามาก่อน (ฮันซบบอก) เธอถามเพื่อนๆ ว่าเคยได้ยินชื่อหรือเรื่องราวเกี่ยวกับฮันซบบ้างไหม จีฮีตอบว่า ผู้ชายคนเดียวที่ยอลแมพูดถึงและให้ความสำคัญมาโดยตลอดก็คือ 'ซอกฮยอน' ยอลแมนึกถึงคำพูดของฮันซบที่บอกว่า เขาเป็นเพื่อนนักเรียนของเธอ แม้จะยังนึกไม่ออกแต่ก็เธอรู้ว่าฮันซบไม่ได้โกหกเพราะเขารู้เรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอ รวมทั้งนิสัยแย่ๆ ของเธอด้วย เขายังบอกอีกว่า สมัยเรียนเธอกับเขาเคยคบกัน 1 เดือนและเคยจูบกัน 3 ครั้ง

อยู่ๆ ยอลแมก็จำจูบแรกของเธอกับฮันซบได้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นสมัยที่เธอยังเป็นนักศึกษา แต่เธอนึกไม่ออกว่าจูบกันครั้งที่ 2 และ 3 ตอนไหน เธอจึงนึกสงสัยว่ายังมีอีกกี่จูบ (กับผู้ชายคนอื่นๆ) ที่เธอจำไม่ได้ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ทำไมเธอถึงยังเป็นโสดทั้งๆ เคยจูบกับผู้ชายมาแล้วหลายคน ยอลแมถามแจยองและจีฮีว่า ทั้งคู่เคยผ่านการจูบมาแล้วกี่ครั้ง แจยองกล่าวว่าผู้หญิงไม่ควรเล่าเรื่องความสัมพันธ์ในอดีตให้ใครฟัง (เพราะมันนับครั้งไม่ถ้วน) เธอคิดว่าจำนวนครั้งไม่ใช่เรื่องใหญ่และไม่ใช่เครื่องชี้วัดความดีงาม (คนมีประสบการณ์เยอะไม่ได้หมายความว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี) แต่ก็ไม่ควรนำมาเปิดเผยให้ให้โลกรู้

แจยองนึกได้ว่าก่อนหน้านี้เพิ่งได้รับของแจก เธอเลยหยิบกล่องเล็กๆ ในกระเป๋าออกมายื่นให้จีฮี จีฮีมองกล่องถุงยางในมือด้วยความตกใจแล้วรีบโยนให้ยอลแมทันที ยอลแมแกะกล่องดูถุงยางที่อยู่ข้างในแล้วบอกว่าเธอยังโสดเลยไม่จำเป็นต้องใช้ตอนนี้ แจยองอ้างว่าเธออยากมีลูกเลยไม่จำเป็นต้องใช้เช่นกัน ส่วนจีฮียืนยันว่าของแบบนี้ควรให้ผู้ชายเป็นคนพก ยอลแมจึงตัดบทว่าเธอจะเก็บถุงยางเอาไว้เอง เพราะเธออาจจะได้ใช้มันเร็วๆ นี้ (กับคู่นัดบอด)

ทันใดนั้น ซอกฮยอนก็เดินเข้ามาขอกาแฟทาน ทำให้สาวๆ แทบวงแตก ยอลแมถามว่าบ้านเขากาแฟหมดหรือ ซอกฮยอนไม่ตอบและเดินดุ่มๆ ไปที่เครื่องชงกาแฟอย่างคุ้นเคย ยอลแมเดินไปหยิบ (เมล็ด) กาแฟในตู้เย็นแล้วถือโอกาสซ่อนถุงยางเอาไว้ในตู้ หลังส่งกาแฟให้ซอกฮยอนแล้วยอลแมก็ยืนมองหน้าเขาอย่างพินิจพิจารณาและพบคำตอบว่า ที่เธอยังโสดตราบจนทุกวันนี้ เป็นเพราะเธอรักซอกฮยอนมากกว่าใคร และเขาก็เป็นจูบแรกในชีวิตของเธอ

ยอลแมหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต.. ระหว่างกำลังเดินกลับบ้านหลังเลิกเรียนในวันวาเลนไทน์ อยู่ๆ ซอกฮยอนก็ขอจูบเธอดื้อๆ โดยให้เหตุผลว่าถ้าจูบกันในวันนี้ก็จะมีความทรงจำดีๆ ร่วมกัน และเขาเองก็อยากรู้ด้วยว่าถ้าได้จูบกันแล้วจะเป็นยังไง ยอลแมผลักอกซอกฮยอนแล้วเดินหนี แต่ซอกฮยอนยังคงตามมารบเร้า พอเห็นว่ายอลแมไม่พอใจซอกฮยอนก็ยอมแพ้และขอถอนคำพูด ยอลแมกล่าวอย่างน้อยใจว่าถ้าเขาอยากรู้ก็ให้ไปลองจูบกับคนอื่น แต่ถ้าอยากจูบเพราะมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน เขาควรเอ่ยปากบอกว่าชอบเธอก่อน ซอกฮยอนแย้งว่าทำไมต้องพูดในเมื่อเขาแสดงออกด้วยการซื้อลูกอมเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ให้เธอแล้ว พอยอลแมงอนและเดินหนีอีกครั้ง ซอกฮยอนก็พูดไล่หลังว่าเขาชอบเธอ ยอลแมหยุดเดินแล้วหันกลับมาบอกให้ซอกฮยอนพูดต่อหน้าตน ซอกฮยอนจึงบอกยอลแมว่า "ชั้นรักเธอ"

หลังทำตามคำขอแล้ว ซอกยอนก็ทวงจูบจากยอลแมทันที ยอลแมผลักอกซอกยอนแล้ววิ่งหนี ซอกยอนจึงรีบวิ่งไล่ตาม หลังวิ่งกันจนเหนื่อยหอบ ยอลแมก็หยุดหายใจริมกำแพงที่ปกคลุมไปด้วยเถาต้นไอวี่ จากนั้นก็อธิบายถึงสาเหตุที่วิ่งมาไกลขนาดนี้ว่า ถนนที่เธอกับเขาเดินกลับบ้านเมื่อสักครู่มีเด็กๆ ผ่านไปมาเยอะ ยอลแมยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อซอกยอนก็โผเข้าจูบเธอทันที... ยอลแมบอกคนดูว่า จูบครั้งนั้นดูดดื่มและน่าประทับใจจนเธอลืมจูบทั้งหมดที่เคยมีกับชายอื่น ซอกฮยอนปลุกยอลแมให้ตื่นจากภวังค์ด้วยการถามว่า "ทำไมไม่ตอบ" เขาถามย้ำว่า "เธอจะไปพบ 'ผู้ชายคนนั้น' (ฮันซบ) อีกรึเปล่า" ยอลแมหนีไปนั่งโซฟากับเพื่อนๆ พลางถามว่าอยากรู้เรื่องของเธอไปทำไม พอซอกฮยอนเดินตามไปนั่งที่โซฟา แจยองก็ฟ้องว่าฮันซบกับยอลแมเคยเดทกันมาก่อน แถมทั้งคู่ยังเคยจูบตั้ง 3 ครั้ง ซอกฮยอนกล่าวว่าตนได้ยินทุกอย่างหมดแล้ว จากนั้นก็ถามยอลแมโดยไม่มองหน้าว่า ตนไม่รู้จักผู้ชายคนนั้นใช่ไหม ยอลแมไม่ตอบและตำหนิซอกฮยอนที่แอบฟังคนอื่นคุยกัน ซอกฮยอนเถียงว่าพวกเธอคุยกันเสียงดังลั่นถึงแม้ไม่อยากฟังก็ยังได้ยิน จากนั้นก็ถามคำเดิมว่า เธอจะไปพบฮันซบอีกหรือไม่ ยอลแมจึงตอบว่า เธออายเกินกว่าจะไปพบหน้าฮับซบอีก

ซอกฮยอนไม่อยากจะเชื่อว่ายอลแมลืมแม้กระทั่งคนที่เคยจูบกันมาก่อน เขาหันไปถามแจยองและจีฮีว่าพวกเธอลืมคนเคยๆ เหมือนยอลแมรึเปล่า แจยองถามกลับว่า ผู้ชายจำผู้หญิงทุกคนที่ตนเคยจูบได้ไหม ซอกฮยอนอึ้งไปชั่วขณะ เขาหันไปมองหน้ายอลแม (ซึ่งรอฟังคำตอบด้วยเช่นกัน) แล้วเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามว่า เธอแอบเป็นกิ๊กกับ 'ไอ้บ้านั่น' (ฮันซบ) ตอนที่คบกับตนอยู่ใช่ไหม ยอลแมอธิบายว่า เธอจูบกับฮันซบหลังจากเธอและซอกฮยอน 'เลิกกันครั้งแรก' ได้พักหนึ่ง ซอกฮยอนแย้งว่านั่นไม่ใช่การ 'เลิกกันครั้งแรก' แต่เป็นตนที่ 'โดนทิ้งครั้งแรก' ซอกฮยอนยังถามยอลแมด้วยว่า ที่ตนโดนทิ้งคราวนั้นเป็นเพราะ 'ไอ้บ้านั่น' ใช่ไหม

หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เปิดฉากทะเลาะกันต่อหน้าแจยองและจีฮี ซอกฮยอนตำหนิยอลแมที่จับปลาสองมือ ยอลแมไม่สะทกสะท้าน ทั้งยังลอยหน้าลอยตายอมรับและประชดว่าหากเธอทำผิดมากนักก็ให้เขาไปทำเรื่องฟ้องร้อง ซอกฮยอนส่ายหัวแล้วกล่าวต่อว่า ยอลแมมักขอเลิกทุกครั้งที่มีปัญหา ยอลแมสวนกลับว่า ถ้าอยากรู้เหตุผลที่เธอขอเลิก ทำไมเขาถึงไม่ถามเธอเสียตั้งแต่ตอนนั้น ซอกฮยอนถามกลับว่าถ้าหากตนถามแล้วจะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงหรือ

ยอลแมถามเสียงดังลั่นว่า เพราะอะไรเธอกับเขาถึงได้เลิกกันเมื่อ 3 ปีก่อน จากนั้นก็ตอบเองเสร็จสรรพว่า เป็นเพราะเขาไม่มีหัวใจ เธอถามว่าเขาไม่คิดที่จะรับผิดชอบผู้หญิงที่โดนเขาจูบจนปากเปื่อยมาแล้ว 5 หมื่นครั้งเลยหรือ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เถียงกันไปมาเรื่องจำนวนครั้งที่จูบกัน จีฮีเห็นทั้งคู่เถึยงกันอย่างไม่ลดละเลยช่วยห้ามทัพพลางบ่นว่าคู่นี้เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องทะเลาะกันทุกที

ทันใดนั้น สามีของแจยองก็โทรฯ มาตาม ยอลแมเห็นแจยองรับสายอย่างมีความสุขเลยจ้องหน้าซอกฮยอนพลางส่งสายตาบอกให้เขาดูคู่ของแจยองเป็นตัวอย่าง เพราะทั้งคู่แต่งงานกันมา 3 ปีแล้ว แต่ทุกวันนี้เธอและสามียังอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขและไม่เคยมีปากเสียงกันเลย... แต่สิ่งที่ยอลแมไม่รู้ก็คือ ทุกอย่างเป็นเพียงการจัดฉาก แจยองและสามีไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา ขณะอยู่กันตามลำพังทั้งคู่จะเก็บภาพถ่ายวันแต่งงานและภาพคู่ลงกล่อง ถึงกระนั้น ทั้งคู่ก็มีความสัมพันธ์อันดีและนอนร่วมห้องเดียวกัน (แต่แยกเตียง) เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นสงสัย

ยอลแมพยายามเปิดไฟดวงหนึ่งแต่ปรากฏว่าหลอดขาด เธอเห็นซอกฮยอนเพิ่งกลับเข้าบ้านเลยถามว่าไปไหนมา ซอกฮยอนตอบว่าตนออกไปซื้อหลอดไฟ เขาเห็นไฟดวงนี้ดับตั้งแต่เมื่อวานเลยออกไปซื้อหลอดไฟมาเปลี่ยนให้ ยอลแมดีใจมากและช่วยประคองเก้าอี้ให้ในขณะที่ซกฮยอนปีนขึ้นไปเปลี่ยนหลอดไฟ ซอกฮยอนกลัวเก้าอี้ล้มเลยบอกให้ยอลแมจับขาไว้ให้แน่นๆ (ทั้งคู่วางเก้าอี้ซ้อนกันสองตัว) ยอลแมได้ยินดังนั้นก็กอดขาซกฮยอนเอาไว้ ซกฮยอนเลยต้องชี้ชัดว่าไม่ใช่ขาตน...แต่เป็นขาเก้าอี้!!!

ระหว่างที่ยอลแมลงไปนั่งเกาะขาเก้าอี้ เธอเหลือบไปเห็นซอกฮยอนสวมถุงเท้าลายทางหลากสี เลยหวนนึกถึงวันเก่าๆ สมัยที่ยังคบกัน วันนั้น เธอสวมถุงเท้าลายนี้ออกไปหาซอกฮยอนที่ร้านกาแฟ ในตอนนั้นซอกฮยอนกำลังนั่งทำงานหน้าโน๊ตบุ้คอย่างขมักเขม้นเลยไม่ได้สนใจยอลแมเท่าที่ควร ยอลแมพยายามชวนคุยโดยถามว่าเขาเปลี่ยนกระจกมองข้างรถสกูตเตอร์หรือยัง ซอกฮยอนพยักหน้าโดยไม่ละสายตาจากคอมพิวเตอร์ ยอลแมหยิบถุงเท้าที่ซื้อมาฝากซอกฮยอนขึ้นมาอวด โดยบอกว่าเธอซื้อมาทั้งหมด 10 คู่ (หนึ่งในนั้นก็คือคู่ที่ซอกฮยอนกำลังใส่อยู่ในปัจจุบัน) จากนั้นก็ยกเท้าขึ้นมาอวดว่าเธอเองก็ใส่ถุงเท้าแบบเดียวกัน ซอกฮยอนบอกให้ยอลแมรอก่อนเพราะตนกำลังงานยุ่ง แต่ยอลแมก็คาดคั้นให้ซอกฮยอนหันมาดูจนได้

ยอลแมถามซอกฮยอนว่า งานยุ่งแล้วทำไมถึงนัดให้เธอออกมาหา ในตอนนั้นความคิดของซอกฮยอนกำลังพรั่งพรูเขาเลยมุ่งมั่นกับการทำงานโดยไม่ยอมตอบคำถามหรือคุยกับยอลแม ยอลแมอ่านหนังสือเล่าหนาเตอะจบไป 3-4 เล่มแต่ซอกฮยอนก็ยังทำงานไม่เสร็จ แถมเขายังไม่ยอมคุยหรือละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์อีกต่างหาก ยอลแมไม่รู้จะสรรหาวิธีไหนมาฆ่าเวลาอีกเลยหลับรอ พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าซอกฮยอนยังนั่งทำงานอยู่เช่นเดิม หลังนั่งรอมานานหลายชั่วโมงยอลแมชักเริ่มรู้สึกน้อยใจ เธอเตือนว่าวันนี้เป็นวันที่หนึ่งพันหลังเธอกับเขาจูบกันครั้งแรก ซอกฮยอนตอบโดยไม่มองหน้ายอลแมว่ารู้แล้ว ยอลแมเห็นดังนั้นเลยขู่ว่าจะกลับบ้านแต่ซอกฮยอนกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน เธอเลยถือกระเป๋าเดินออกจากร้านไป

เมื่อเห็นว่าซอกฮยอนยังทำเหมือนไม่สนใจ ยอลแมก็เรียกร้องความสนใจและระบายความโกรธด้วยการถีบรถสกูตเตอร์คู่ใจของซอกฮยอนจนล้มคว่ำ ยอลแมเห็นซอกฮยอนรีบวิ่งออกมาดูรถ เลยกระทืบกระจกมองข้างที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่จนพังคาเท้า พอถูกซอกฮยอนต่อว่ายอลแมก็เตะหมวกกันน็อคใส่ซอกฮยอน เธอควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จึงพูดจาดูถูกความสามารถของซอกฮยอน จากนั้นก็ขอเลิก แม้ว่ายอลแมจะรู้สึกเสียใจที่พลั้งปากพูดเช่นนั้น แต่พอซอกฮยอนบอกให้เธอพูดซ้ำอีกครั้งโดยให้เวลาคิด 10 วินาที เธอกลับยังคงยืนยันคำเดิม (ทั้งๆ ที่ในใจไม่อยากเลิก) และนั่นก็คือที่มาของการเลิกกันครั้งแรก

ยอลแมบอกคนดูว่า เธอไม่ได้โกรธที่ซอกฮยอนงานยุ่ง ไม่ได้หงุดหงิดที่ต้องทนรอนาน 4 ชั่วโมง และการครบรอบหนึ่งพันวันหลังจูบกันครั้งแรกก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เธอแค่อยากให้เขาใส่ใจ อยากให้เขาบอกเธอว่า หากมีเธออยู่เคียงข้าง เขาจะเขียนงานได้ดีขึ้น และขอเวลาเธอสัก 5 ชั่วโมง ยอลแมเข็นรถสกูตเตอร์ของซอกฮยอนไปซ่อมกระจกมองข้าง แต่เธอสู้ค่าอะไหล่ไม่ไหว เลยเลือกแบบที่ราคาถูกกว่า (และไม่เหมือนกระจกอีกด้าน) ให้แทน จากนั้นก็ส่งข้อความไปบอกซอกฮยอนทางมือถือ แต่เขาก็ไม่ตอบกลับ

ระหว่างเรียนวิชากฏหมาย ยอลแมพยายามง้อซอกฮยอนด้วยการส่งข้อความไปขอโทษเรื่องกระจกรถสกูตเตอร์ แต่ซอนฮยอกไม่ยอมตอบข้อความ ซ้ำยังเดินผ่านยอลแมโดยไม่มองหน้าหลังเลิกชั้นเรียน และนั่นก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเธอกับซอกฮยอนเลิกคบกันแล้วจริงๆ... หลังจากนั้น 3 เดือนทั้งคู่บังเอิญเจอกันในวันฝนตก วันนั้นยอลแมติดฝนอยู่ที่หน้าตึกเพราะไม่ได้พกร่มมาด้วย ซอกฮยอนรู้ว่ายอลแมติดฝนแต่เขาแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นและกางร่มเดินออกจากตึกเพียงลำพัง หลังเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็เดินกลับไปหายอลแมและส่งร่มให้โดยไม่พูดจาและไม่ยอมมองหน้าเธอ จากนั้นก็เดินตากฝนออกไป ยอลแมรีบวิ่งตามไปกางร่มให้ซอกฮยอนโดยเอื้อมมือออกไปจนสุดแขนเพื่อไม่ให้เขาเปียกฝน

ซอกฮยอนหันกลับมาแย่งร่มแล้วถือไว้ตรงกลางระหว่างเธอกับเขา พลางถามว่าการเลิกกันมันง่ายนักใช่ไหม เมื่อยอลแมส่ายหน้าซอกฮยอนก็ถามต่อว่า เธอจะพูดพล่อยๆ แบบนี้ทุกครั้งที่โกรธกันใช่ไหม ยอลแมปฏิเสธและบอกว่าต่อไปนี้เธอจะไม่ทำตัวแย่ๆ แบบนั้นอีก และเธอก็สำนึกผิดแล้ว ซอกฮยอนได้ยินดังนั้นก็เผลอยิ้มออกมา ยอลแมรู้ว่าซอกฮยอนยังรักเธออยู่และหายโกรธแล้ว จึงเดินเข้าไปเกาะแขนแล้วพยายามถามว่าคิดถึงเธอไหม

ตัดกลับมาที่เวลาปัจจุบัน... ยอลแมเกาะเก้าอี้มองถุงเท้าซอกฮยอนพลางแอบค่อนแคะในใจว่า เขายังไม่สำนึกผิด ทั้งๆ ที่ชีวิตของเขาอยู่ในกำมือของเธอ แถมยังไม่เคยพูดว่าคิดถึงเธอด้วย หลังเปลี่ยนหลอดไฟเสร็จแล้ว ซอกฮยอนหันมาเห็นถุงเท้ายอลแมจึงยิ้มแล้วบอกว่าถุงเท้ารุ่นนี้ทนดีจริงๆ (ยอลแมเองก็ใส่ถุงเท้าลายทางด้วยเช่นกัน) เขาขยับเข้ามาใกล้ยอลแมแล้วชมว่าเธอฉลาดเลือก จากนั้นก็ใช้นิ้วตีเบาๆ ที่ปลายจมูกของเธอและเดินจากไป ยอลแมรู้สึกเหมือนโดนกดปุ่มสตาร์ท เธอจับปลายจมูกตัวเองด้วยความรู้สึกหนักใจ เพราะเขากำลังทำให้ไฟในตัวของเธอลุกโชน

ขณะกำลังทดสอบรองเท้า ยอลแมถามเพื่อนๆ ว่า รู้จักหรือเคยได้ยินว่ามีใครที่โดนแตะปลายจมูกแล้วรู้สึกวูบวาบบ้างไหม จีฮีฟังแล้วรู้สึกประหลาดใจ เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน ยอลแมเลยบอกว่าเธอเพิ่งรู้ตัวว่าจมูกตัวเองไวต่อการสัมผัสเมื่อวานนี้ จีฮีรู้ว่าใครทำให้ยอลแมค้นพบสิ่งนี้เลยถามว่า "เขาเลียจมูกเธอใช่หรือเปล่า" ยอลแมตอบว่า "ไม่นะ เขาแค่ใช้นิ้วแตะเท่านั้น" (ในเวลาเดียวกันนั้น ซอกฮยอนก็กำลังยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงตอนที่เขาแตะจมูกยอลแม)

ยอลแมแปลกใจว่าทำไมเธอถึงใจสั่นหลังโดนซอกฮยอนแตะปลายจมูก จีฮีแซวว่ายอลแมต้องมีความสุขแน่ๆ เพราะแค่ลูบจมูกก็รู้สึกซาบซ่านแล้ว เธอจึงขอแตะจมูกยอลแมดูบ้างแต่ยอลแมกลับไม่รู้สึกอะไร ยอลแมจึงขอให้เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งลองแตะจมูกเธอดู ปรากฏว่ายอลแมยังคงรู้สึกเฉยๆ เธอจึงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ ชายหนุ่มแนะนำให้ยอลแมกลับไปคบกับซอกฮยอนอีกครั้ง ยอลแมแย้งว่าเธอกับซอกฮยอนรักๆ เลิกๆ กันมา 5 ครั้งก็นับว่าเกินพอแล้ว จีฮีย้ำว่าซอกฮยอนทำให้จมูกยอลแมไวต่อการสัมผัส แต่ยอลแมเถียงว่านั่นเป็นความสามารถเฉพาะตัวของเธอเอง

ระหว่างควบคุมการบันทึกเสียง ยอลแมรู้สึกไม่พอใจผลงานของนักร้องนักดนตรีเลยบอกให้ไปซ้อมมาใหม่แล้วค่อยกลับมาบันทึกเสียงอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น หลังออกจากสตูดิโอบันทึกเสียงแล้วยอลแมก็รีบออกไปพบคู่เดทรายใหม่ ระหว่างนั้น ยายของเธอคอยโทรฯ จิก (ให้ไปตามนัด) ตลอดแต่ยอลแมไม่ยอมรับสายและบ่นว่าถ้าชอบการนัดบอดมากนักทำไมยายถึงไม่แต่งงานเสียเอง หลังจากนั้นเธอก็บอกคนดูว่าบทเรียนสำคัญที่เธอได้รับตอนที่คบกับซอกฮยอนก็คือ ไม่ว่าจะพยายามซักแค่ไหนก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้

ยอลแมมองหน้าตัวเองในกระจกรถแล้วบอกตัวเองว่า อย่าไปคาดหวังอะไรมาก จากนั้นก็บอกคนดูว่าวันนี้เธอจะไปทดสอบโชคชะตา ขณะกำลังเดินไปที่ห้องอาหารยอลแมบังเอิญชนกับเจ้าหน้าที่บริษัทจัดหาคู่ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวตำหนิยอลแมที่มาสาย และบอกว่าตนมีธุระด่วนเลยไม่สามารถพายอลแมไปแนะนำตัวกับคู่เดทได้ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวถามว่ายอลแมดูประวัติของคู่เดทแล้วใช่ไหม (ถ้าดูก็ต้องเห็นรูปฝ่ายชาย) เมื่อยอลแมบอก (โกหก) ว่าดูแล้วเจ้าหน้าที่คนดังกลาวก็รู้สึกโล่งใจ และบอกยอลแมว่าคู่นัดบอดของเธอนั่งอยู่ริมผนังกระจก

ยอลแมกวาดตามองผู้ชายที่นั่งอยู่ริมกระจกและพยายามเดาว่าคู่เดทของเธอเป็นใคร เมื่อเห็นชายคนหนึ่งก้มศีรษะให้ ยอลแมเลยเดินเข้าไปหา ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวคือ "ชิน จีฮุน" เธอนั่งลงพลางขอโทษที่มาสาย (จีฮุนทำหน้างงๆ) และบ่นว่ารถติดมาก จีฮุนแย้งอย่างรู้ทันว่า จากสตูดิโอบันทึกเสียงมาที่นี่การจราจรคล่องตัวสุดๆ เขาเองก็เพิ่งมาทางนั้น ยอลแมหน้าแตกยับจึงแอบด่าจีฮุนในใจที่รู้ทัน เมื่อเห็นว่าจีฮุนแสดงทีท่าเหมือนไม่ค่อยสนใจเธอ แถมยังไม่ยอมแนะนำตัวเหมือนคู่นัดบอดทั่วไป ยอลแมจึงถามว่าเขาไม่มีอะไรจะพูดกับเธอหรือ จีฮุนส่ายหน้าพลางบอกตามตรงว่าไม่มี

ยอลแมตำหนิจีฮุนที่เสียมารยาทในสถานการณ์แบบนี้ จีฮุนถามกลับว่าสถานการณ์แบบไหน ยอลแมตอบว่าขณะกำลังนัดบอด เธอถามจีฮุนว่า เขาถูกบังคับให้มาที่นี่หรือ จีฮุนหัวเราะลั่นเมื่อได้ยินคำว่า 'นัดบอด' เขาถามยอลแมว่าตนดูเหมือนคนไร้น้ำยาจนต้องแต่งงานโดยผ่านการนัดบอดงั้นหรือ ยอลแมรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างจัง จึงโม้ว่าเธอเองก็เนื้อหอมและมีผู้ชายมารุมล้อมมากมาย แต่ที่ต้องมานัดบอดเป็นเพราะไม่อยากขัดใจคุณยาย แม้ต้องทำในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบแต่เธอก็ยังรู้จักรักษาน้ำใจและไม่เสียมารยาทกับคนอื่น ผิดกับเขาที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษและหยาบคายกับเธอ

จีฮุนเรียกชื่อยอลแมแบบเต็มยศ (คุณจู ยอลแม) แล้วบอกว่าเธอกำลังเข้าใจผิด ยอลแมถามว่าเข้าใจผิดยังไง จีฮุนส่งสายตาบอกยอลแมให้หันไปดูด้านหลัง เมื่อยอลแมหันไปมองก็พบว่าคู่เดทตัวจริงของเธอกำลังยืนหัวฟูอยู่ทางด้านหลัง เธอจึงขอโทษจีฮุนแล้วเดินตามชายคนดังกล่าวไปที่โต๊ะ (เขาเพิ่งออกจากห้องน้ำ ยอลแมเลยมองไม่เห็นเขาก่อนหน้านี้) ยอลแมเกิดเอะใจว่าทำไมจีฮุนถึงรู้จักชื่อและที่ทำงานของเธอจึงเดินกลับไปถามว่าเขาชื่ออะไร พอได้ยินว่าชื่อ 'ชิน จีฮุน' ยอลแมกลับไม่คุ้นและนึกไม่ออกว่าเคยรู้จักกันตอนไหน เธอถามจีฮุนว่า เขารู้จักเธอหรือเปล่า จีฮุนหัวเราะแล้วบอกว่า "ผมผิดหวังจริงๆ ที่คุณจำผมไม่ได้" ยอลแมได้ยินดังนั้นจึงถามจีฮุนว่า เธอกับเขาเคยคบกันมาก่อนหรือเปล่า จีฮุนถามกลับว่าเธอจำเขาได้แล้วใช่ไหม

ยอลแมเริ่มรู้สึกว่าประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย (เหมือนตอนนัดบอดครั้งแรกแล้วเจอฮันซบ) จึงถามจีฮุนว่า "เราเคยจูบกันมาก่อนรึเปล่า" จีฮุนทำหน้าครุ่นคิดแล้วตอบว่า "ผมคิดว่าเคยนะ" ยอลแมได้ยินคำตอบแล้วถึงกับผงะด้วยความตกใจ [/nd]